อัตชีวประวัติอย่างย่อของคุณอิ๋ม "จ้าวแม่มุก"

Last updated: 9 พ.ย. 2565  |  1040 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อัตชีวประวัติอย่างย่อของคุณอิ๋ม "จ้าวแม่มุก"

ปัจจุบันธุรกิจค้าขายเครื่องประดับไข่มุก ในจังหวัดกระบี่ มีอยู่หลายราย แต่มีไม่กี่รายที่ประสบความสำเร็จ และสามารถต่อยอดธุรกิจจนไปสู่ธุรกิจขายไข่มุกผ่านช่องทาง Online เบอร์ต้นๆของประเทศ เหมือนอย่างรายของ น.ส.ณัฐวรา สมแก้ว หรือคุณอุ๋มอิ๋ม เจ้าของฉายาจ้าวแม่มุก และนายชาติชนก โกกนท หรือที่รู้จักกันดีในนาม พี่พราย PAKASIA สองสามีภรรยา ที่ผันตัวเองมาจากลูกจ้างประจำ และครูสอนพิเศษ จนประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจค้าขายเครื่องประดับไข่มุก 

น.ส.ณัฐวรา สมแก้ว หรือคุณอุ๋มอิ๋ม เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกจ้าง ที่ร้านจำหน่ายเครื่องประดับในสนามบินกระบี่มาก่อน เห็นว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมีความนิยมชมชอบในเครื่องประดับไข่มุกมาก หลังจากที่ออกจากงาน ก็หันมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ กับสามี โดยก่อนที่จะขายไข่มุกนั้น ก็ขายสินค้าหลายอย่าง ทั้งผ้าไหม  ผ้าฝ้าย หิน ลูกปัด แต่สุดท้ายก็มาจับไข่มุก จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

เนื่องจากไข่มุกมีความสวยงาม และสามารถนำมาดีไซน์ได้หลายรูปแบบ และที่สำคัญเครื่องประดับไข่มุกสามารถขายได้ เป็นที่ต้องการของคนชอบสวมใส่เครื่องประดับ เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่ เข้าใจว่าไข่มุกนั้นมาจากทะเลอันดามัน จึงทำให้ได้เปรียบในการทำตลาดในระยะเริ่มต้น แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อเท็จจริงคือ ไข่มุกอันดามันที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดนั้น แท้จริงแล้วยังไม่มีฟาร์มไข่มุกใดในประเทศไทยที่สามารถเพาะเลี้ยงไข่มุกในเชิงพาณิชย์และผลิตได้เพียงพอความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศได้ ดังนั้นไข่มุกส่วนใหญ่จึงต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลูกค้าที่ชื่นชอบไข่มุก เขาก็ทราบดีและเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ ซึ่งอาจจะมีความรู้กว้างขวางมากกว่าพ่อค้าแม่ค้าบางรายเสียอีก

การทำธุรกิจของตนนั้น จะนำเสนอแต่ความจริงเท่านั้นกับลูกค้า พูดง่ายๆก็คือขายความจริงกัน สำหรับการทำธุรกิจค้าขายเครื่องประดับมุกของตนเริ่มจากธุรกิจขายออนไลน์ ในบ้านเช่าห้องแถวเล็กๆมีลูกจ้าง 2-3 คน โดยทำมานานกว่า 10 ปี และพบว่าขายดี ขายได้ มีกำไร จึงได้ขยายธุรกิจ เปิดเป็นโรงงานเครื่องประดับไข่มุกครบวงจรในชื่อตราสินค้า PAKASIA (ปกาเซีย) ได้ประมาณ 3 ปีเศษ ตั้งแต่การนำเข้าไข่มุกเอง ออกแบบเอง ผลิตเอง จำหน่ายเอง และจัดส่งเอง จนมีพนักงานกว่า 30 คนในปัจจุบัน 

สำหรับโรงงานของตน ไม่มีหน้าร้าน จะเน้นการขายออนไลน์ผ่านช่องทาง Facebook , Instagram และ Line เท่านั้น และถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่ไลฟ์สดขายไข่มุกในประเทศไทย ยอมรับในช่วงแรกๆแทบไม่มีคู่แข่ง แต่หลังๆ มา ก็เริ่มมีคู่แข่ง แต่ด้วยประสบการณ์ที่สามีเคยเป็นครูสอนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษมาก่อน จึงมีความชำนาญในด้านภาษา จึงเริ่มศึกษาว่าจะทำธุรกิจอย่างไรให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง ก็เลยได้ไปศึกษาดูงาน และเรียนรู้เพิ่มเติมจากสถาบันอัญมณีในต่างประเทศ พบว่าแบรนด์ไข่มุกใหญ่ๆ ทั่วโลกนั้น ได้นำเสนอความรู้เกี่ยวกับไข่มุกให้ลูกค้าควบคู่ไปกับการขายสินค้าด้วย

ก็เลยได้ไอเดีย ตัวเองมีความรู้ในด้านการทำธุรกิจ ส่วนสามี มีความรู้ในด้านการสอน ก็เลยเอามาผนวกกัน เปิดเป็นโรงเรียนสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับไข่มุกแบบออนไลน์ โดยในปัจจุบันการจัดตั้งโรงเรียนยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติหลักสูตร โดยคาดว่าจะดำเนินกิจการได้ในไม่ช้านี้ สิ่งถือว่าคนในท้องถิ่นเองก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเพราะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่ผู้ที่สนใจด้วย เพราะถ้าพูดถึงวงการไข่มุกจริงๆยังเรียนรู้กันแบบผิดๆ บอกกันปากต่อปากแบบผิดๆ หวังแค่เพียงรายได้หรือหลอกขายกัน ซึ่งตนไม่อยากเห็นตรงนี้ เพราะทำธุรกิจทุกประเภทหากมีการคดโกง หลอกลวง ก็จะทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง เหมือนกับคำพูดที่ว่า “ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง”

นอกจากนี้ คุณชาติชนก หรือพี่พราย PAKASIA เจ้าของร้านเครื่องประดับมุก PAKASIA ยังให้ข้อมูลถึงไข่มุกเมโล ว่าเป็นไข่มุกน้ำเค็ม ที่มีราคาแพงและเป็นที่อยากได้ อยากครอบครองของคนที่ชื่นชอบไข่มุก จะต้องเป็นไข่มุก ที่เกิดจากหอยโข่งทะเลหรือหอยสังข์ทะนานเท่านั้น ส่วนไข่มุกที่เกิดจากหอยชนิดอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นไข่มุกเหมือนกัน แต่ไม่เรียกว่ามุกเมโล สำหรับคนที่สนใจติดตามได้ทาง Facebook: Pakasia Prime หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไข่มุกคุณภาพสูงได้ที่ www.pakasiapearl.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้